เลือกมาเป็นบางประเด็นนะครับ เพราะบางคำถามปู่บัฟเตต์ก็ตอบทีเล่นทีจริงแถมกำกวมอีก


เกี่ยวกับการเลือกตั้งในยูโรโซนและการที่หุ้นทั่วโลกตกลงรับข่าวดังกล่าว
"10หรือ20ปีที่แล้วยุโรปเป็นผู้ผลิตสินค้าคุณภาพ นี่ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของโลก"
"ผมไม่เคยบ่นเลยที่จะได้ซื้อหุ้นถูก"
"สัปดาห์ก่อนเบิร์กไชร์เพิ่งเป็นเจ้าของบริษัทหนึ่งในเนเธอร์แลนด์ สถานการณ์ตอนนี้ไม่ทำให้ผมหยุดซื้อหุ้นที่มีคุณค่า"

เกี่ยวกับการลงทุนทองคำ
"ถ้าคุณซื้อทองหนึ่งออนซ์เมื่อร้อยปีที่แล้วมันก็ยังเป็นทองหนึ่งออนซ์ในตอนนี้ แต่ถ้าคุณเป็นเจ้าของฟาร์มคุณจะได้ผลิตผลจากมันและหนึ่งร้อยปีผ่านไปคุณก็ยังมีฟาร์มอยู่ แต่ถ้าคุณซื้อหุ้นในดาวนส์โจนส์คุณจะได้เงินปันผลตลอด100ปี"
เสริมให้ว่าปู่บัฟเฟตต์ไม่เคยสนใจลงทุนทองคำครับ

เกี่ยวกับที่ได้คุยกับมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก
"จากที่ได้คุยกับซัคเคอร์เบิร์ก มัน(FB)เป็นธุรกิจที่พิเศษและยากที่จะตีค่าธุรกิจ"
"มีสิ่งที่คล้ายคลึงกันระหว่างบิลเกตต์กับมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก พวกเขาไม่ได้ทำธุรกิจเพื่อหวังความร่ำรวย"
เหมือนเดิมคือปู่แกไม่ชอบหุ้นเทคโนโลยี

บัฟเฟตต์เล่าให้ฟังว่าสตีฟจ๊อปส์เคยโทรมาปรึกษาว่าจะทำอะไรกับเงินสดที่มีอยู่มากเหลือเกินในบริษัทแอปเปิล
เขาตอบว่า “ฟังดูเป็นไปไม่ได้ที่แอปเปิลจะไม่เคยซื้อกิจการใดๆในขณะที่มีเงิน1ล้านล้านเหรียญในมือ บางทีแอปเปิลอาจต้องจ่ายปันผลหรือซื้อหุ้นคืนบ้าง แต่ผมเดาว่าเขาอาจทำทั้งสองอย่าง”
(สุดท้ายแล้วทิม คุ๊กก็ได้ทำทั้งสองอย่างจริงๆ)

โค้ดคำพูดที่บัฟเฟตต์คุยกับผู้ถือหุ้น
"นักลงทุนรายย่อยอย่าไปให้ความสนใจกับข่าวรายวันมากนัก"
"ผมไม่เห็นทางที่จะทำเงินได้จากการซื้ิอขายหุ้นบ่อยๆ"

คำตอบยังสะท้อนตัวตนของปู่เหมือนเดิมครับ
มาเป็นแฟนเพจผมได้ที่ http://www.facebook.com/pages/TingLi-stock-talk/273369239409505